หลักสูตรการเจรจาต่อรองชั้นสูง-การโน้มน้าวใจ

หลักสูตรการเจรจาต่อรองชั้นสูง-การโน้มน้าวใจ

(เปิดเผยปริศนาของชัยชนะที่นักเจรจาต่อรองมืออาชีพนำมาใช้
จึงทำให้ตนเองได้เปรียบไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์การเจรจาต่อรองเช่นไรก็ตาม)

แนวคิดของการจัด หลักสูตรการโน้มน้าวใจ:

ในบางครั้งการเจรจาต่อรองอาจไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรจะเป็น เนื่องจากคู่เจรจาต่อรองนั้นต่างฝ่ายต่างมีทักษะของการเจรจาต่อรองที่ดีทั้งสองฝ่าย ทำให้ไม่ใช่เรื่องง่ายในการที่จะได้ผลลัพธ์ทำให้ตนเองได้รับในสิ่งที่ปรารถนา กลยุทธ์ที่นักเจรจาต่อรองเลือกและนำมาใช้คือการดน้มน้าวใจ ซึ่งเป็นศาสตร์แห่งการเจรจาต่อรองที่นักเจรจาต่อรองมืออาชีพมักกล่าวว่า

“เจรจาต่อรองอย่างไร ไม่ให้รู้ว่ากำลังเจรจาต่อรอง คือสุดยอดนักเจรจาต่อรอง”

สาเหตุที่เป็นไปตามคำกล่าวเพราะ สภาพที่แท้จริงของการเจรจาต่อรองนั้น อาจจะทำให้รู้สึกเหนื่อยล้า เครียด เพราะต่างฝ่าย ต่างมุ่งใช้เทคนิคกลยุทธ์ที่ตนเองมีอยู่เพื่อให้ตนเองได้รับชัยชนะในการเจรจาต่อรองนั้น ๆ แต่แนวคิดเรื่องการโน้มน้าวใจนั้น มีความแตกต่างจากการเจรจาต่อรองทั่วไป คือการทำให้คู่เจรจาต่อรองนั้น  คล้อยตามในสิ่งซึ่งทำการสนทนาในครั้งนั้น ๆ ตอบตกลง ยินดีที่จะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มใจปราศจากอคตินิยมหรือเงื่อนไขที่จะตามมานภายหลัง สังเกตได้จากผู้นำระดับโลกต่างศึกษาเรื่อง การโน้มน้าวใจ เป็นหลักเพราะต้องใช้หลักจิตวิทยาการโน้มน้าวใจ เพือนำมาเป็นเครื่องมือและกลไกที่สำคัญในการขับเคลื่อนให้คนรอบข้างนั้นมีความยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือทั้งร่างกายและจิตใจ

การเจรจาต่อรองชั้นสูงหรือการโน้มน้าวใจจึงเป็นเสมือนเครื่องมือที่สำคัญที่จะทำให้ตนเองนั้นสามารถที่จะควบคุมในทุกสถานการณ์ของการเจรจาต่อรองได้ คือมีความต้องการที่ทำให้ตนเองนั้นอยู่ในสภาวะที่อยู่เหนือสภาพของของการเจรจาต่อรอง แต่ในสถาพของการเจรจาต่อรองที่บ่อยครั้งนั้นไม่บรรลุถึงเป้าหมายของความพึงพอใจทั้งสองฝ่าย เพราะขาดหลักจิตวิทยาที่จะใช้ วาทศิลป์และการดน้มน้าวใจที่สำคัญที่จะต้องนำมาใช้ในการโน้มน้าวใจให้คู่เจรจาต่อรองคล้อยตาม เห็นด้วยหรือยินดีให้การช่วยเหลือ

ในองค์กรชั้นนำระดับโลกหลายองค์กรจึงให้ความสำคัญเรื่องวาทะศิลป์และการโน้มน้าวใจ เป็นทักษะหลักในการทำงานของพนักงานทุกคน มีรูปแบบการพัฒนาให้มีการเรียนรู้เพิ่มเติมถึงจิตวิทยาการโน้มน้าวใจ อย่างจริงจัง เพื่อความสำเร็จในการเจรจาต่อรองทุกรูปแบบอย่างเป็นรูปธรรม  หลักสูตร “การเจรจาต่อรองชั้นสูงหรือจิตวิทยาการโน้มน้าวใจ”

เป็นหลักสูตรที่มีการประยุกต์มาจาก การเจรจาต่อรองชั้นสูง จาก Notre Dame University ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นการผสมผสานศาสตร์และจิตวิทยาและการโน้มน้าวใจอีกฝ่ายหนึ่งผ่านกระบวนการที่ได้รับการยอมรับมาทั่วโลก ทำให้มีความเข้าใจได้ขัดเจนและที่สำคัญสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเป็นรูปธรรมที่สุดในยุคปัจจุบัน ซึ่งนำมาใช้ในการสร้างความพึงพอใจในการเจรจาต่อรอง ทำให้ให้ผลตามที่คาดหวังไว้

วัตถุประสงค์ของหลักสูตร:

  • เพื่อให้เข้าใจเครื่องมือที่สำคัญในการเจรจาต่อรองทำให้คู่เจรจาต่อรองตอบตกลง
  • เข้าใจในหลักการกลไกที่สำคัญในการขับเคลื่อนความสำเร็จให้ได้ผลสำเร็จในการเจรจาต่อรอง
  • เข้าใจแนวคิดทฤษฎีที่สำคัญที่ต้องใช้ในการเจรจาต่อรอง เช่น หลักการโน้มน้าวใจ ทฤษฎีเกม
  • เข้าใจการทำงานและกรบวนการของการโน้มน้าวใจคน
  • สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม

ผลที่คาดว่าจะได้รับจากการ อบรมหลักสูตรเจรจาต่อรองชั้นสูง

  1. ผู้เข้าอบรม เข้าใจเครื่องมือในการโน้มน้าวใจ อยางมืออาชีพ
  2. สามารถที่จะนำเครื่องมือการโน้มน้าวใจไปใช้ในการทำงาน
  3. สามารถวิเคราะห์จุดอ่อนของคู่เจรจาต่อรอง เพื่อเลือกเครื่องมือในการเจรจาต่อรอง
  4. สามารถที่จะใช้วาทะศิลป์และจิตวิทยาในการโน้มน้าวใจ
  5. สามารถประยุกต์ไปใช้การทำงานจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รายละเอียดหลักสูตร :

Module 1 แนวคิดของการตัดสินใจในการเจรจาต่อรอง

  • วิเคราะห์เกณฑ์ในการตัดสินใจของคนเมื่อต้องเจรจาต่อรอง
  • แนวคิดเรื่องทฤษฏีเกมส์กับการตัดสินใจในการเลือกเกม
  • วิเคราะห์ เกมศูนย์, เกมบวก, และเกมลบ และเกมแห่งชัยชนะทั้งสองฝ่าย
  • องค์ประกอบของการเจรจาต่อรองให้ตนเองได้รับชัยชนะ

Workshop1: วิเคราะห์กระบวนการตัดสินใจ

Module 2 แนวคิดของการเจรจาต่อรองชั้นสูง

  • วิเคราะห์กลยุทธ์การเจรจาต่อรองและการใน้มน้าวใจ
  • ความสำคัญในการโน้มน้าวใจ การใช้วาทะศิลป ในการเจรจาต่อรอง
  • วิเคราะห์จุดอ่อนของคน และทำอย่างไรให้คนตอบตกลง
  • กฏ 3 ประการ ที่จะทำให้คนตอบตกลง แบบไร้เงื่อนไข
  • หลักการที่สำคัญในการโน้มน้าวใจ ซึ่งเป็นกฏพื้นฐานในการพิจารณานำมาใช้ในการโน้มน้าวใจ

Workshop2: วิเคราะห์การใช้วาทะศิลปที่สำคัญในการโน้มน้าวใจ

Module3 วิเคราะห์ คู่สนทนา เพื่อเลือกเครื่องมือในการโน้มน้าวใจ

  • องค์ประกอบที่เป็นจุดอ่อนของการเจรจาต่อรอง
  • วิเคราะห์คน 3 ประเภทที่ใช้การโน้มน้าวใจเพื่อผลสำเร็จในงาน
  • ความพร้อมก่อนการโน้มน่าวใจ
  • จริยธรรมทางธุรกิจกับการโน้มน้าวใจเพื่อผลสำเร็จ

Workshop3: วิเคราะห์การบริหารจัดการคนประเภทต่าง ๆ

Module 4 องค์ประกอบการโน้มน้าวใจ

  • องค์ประกอบการโน้มน้าวใจ และวิธีการนำไปปฏิบัติ
  • วิเคราะห์ปรากฏการณ์ที่ทำให้คนตอบตกลง ยินดีทำตาม
  • วิเคราะห์ 8 หลักวิธีการสร้างอิทธิพลเหนือผู้อื่น ให้คนคล้อยตาม

Workshop4: วิเคราะห์เครื่องมือในการโน้มน้าวใจ

Module 5 การวิเคราะห์เลือกเครื่องมือการโน้มน้าวใจ

  • หลักการสร้างวาทะศิลป์เพื่อการดน้มน้าวใจผู้อื่นในรูปแบบต่างๆ และประยุกต์ใช้
  • กฏการแลกเปลี่ยน และการสร้างการคล้อยตาม เพื่อการสร้างอิทธิพลเหนือผู้อื่น
  • วิเคราะห์ความเคยชินและการสร้างอิทธิพลในการโน้มน้าวใจ
  • การปรับเปลี่ยนมุมมองให้ผู้อื่นคล้อยตามแบบปราศจากเงื่อนไข
  • การวิเคราะห์กระแสสังคมและกลวิธีการโน้มน้าวอย่างได้ผล
  • การสร้างข้อจำกัด เพื่อขจัดความขัดแย้งในใจผู้อื่น

Workshop5: วิเคราะห์เครื่องมือในการโน้มน้าวใจ และการฝึกปฏิบัติ

วิธีการสัมมนา :

  • ประยุกต์มาจาก หลักสูตร “การเจรจาต่อรองชั้นสูง” Notre Dame University
  • แนวการสอนเป็นรูปแบบที่ออกแบบให้เหมาะสมกับการเรียนรู้ของผู้ใหญ่ (Professional Adult Learning Method)
  • จากแนวคิด สู่การปฏิบัติ Work Shop ได้ทำ Work Shop รายบุคคล
  • บทบาทสมมุติ
  • กรณีศึกษา (Case Studies)
  • ชมวีดีทัศน์
อุปกรณ์ใช้ประกอบคำบรรยาย :  LCD Projector / Flip Board

ระยะเวลาในการจัดสัมมนา :  2  วันเต็ม

วิทยากร ดร.สุรชัย โฆษิตบวรชัย สำเร็จการศึกษาโดยตรง ด้านการเจรจาต่อรองและการโน้มน้าวใจ จากประเทศสหรัฐอเมริกา

  • Certificate of Negotiation Essential, Notre Dame University, USA
  • Certificate of Advance Negotiation, Notre Dame University, USA
  • Certificate of Principle of Persuasion (POP) Workshop: (Base on Scientific Research of Dr.Robert Cialdini, Author, Influence :Science & Practice: The New York Time Business Best Seller for over 16 weeks)
  • Certificate of Strategies for Conflict Management Program from Notre Dame University, USA
  • Certificate of Expert Sales Management Program from University of San Francisco, USA
  • Certificate of Transitioning to Sales Management Program from University of San Francisco, USA